พระสังฆราชมิแชล ลังเยร์ เกิดเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม ค.ศ. 1920 ที่นอร์มังดี ประเทศฝรั่งเศส เมื่อปี ค.ศ. 1938 ท่านเข้าบ้านเณรที่เอเวรอส์ ในปี ค.ศ. 1940 ท่านได้ย้ายไปอยู่ที่สามเณราลัยเมืองการ์มส์ จนถึงปี ค.ศ. 1943 ท่านจึงเข้าบ้านเณรใหญ่ คณะมิสซังต่างประเทศแห่งกรุงปารีส จนกระทั่งได้รับศีลบวช เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม ค.ศ. 1946 ท่านเป็นพระสงฆ์ชั้นเดียวกับพระสังฆราชอาแลง วังงาแวร์
เริ่มต้นชีวิตมิชชันนารี
หลังจากบวชได้เพียง 4 เดือน คือในเดือนเมษายน ค.ศ. 1947 ท่านได้รับมอบหมายให้มาแพร่ธรรมในสังฆมณฑลเสฉวน ประเทศจีน จนกระทั่งประเทศจีนกลายเป็นคอมมิวนิสต์ ท่านถูกไล่ออกนอกประเทศในเดือนตุลาคม ค.ศ. 1951 ท่านได้พักอยู่ที่ฮ่องกงช่วงเวลาอันสั้น แล้วท่านเดินทางมาถึงประเทศไทย เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน ค.ศ. 1951

การทำงานในประเทศไทย
หน้าที่แรกในประเทศไทย ไปประจำที่วัดบ้านนา-หนองรี จังหวัดนครนายก (ตำแหน่งผู้ช่วยเจ้าอาวาส) เพื่อศึกษาภาษาไทยและแต้จิ๋ว ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 1951- พฤศจิกายน ค.ศ. 1952 เป็นเวลา 1 ปี หลังจากนั้นย้ายมาประจำที่วัดแม่พระลูกประคำ กาลหว่าร์ (ตำแหน่งผู้ช่วยเจ้าอาวาส) ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 1952- 15 สิงหาคม ค.ศ. 1957 จนกระทั่งวันที่ 15 สิงหาคม ค.ศ. 1957 พระสังฆราชโชแรง สร้างวัดเซนต์หลุยส์ สาทร เสร็จเรียบร้อย ท่านจึงได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดเซนต์หลุยส์ สาทร เป็นองค์แรก
หลังจากนั้นย้ายมาประจำที่วัดแม่พระลูกประคำ กาลหว่าร์ (ตำแหน่งผู้ช่วยเจ้าอาวาส) ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 1952- 15 สิงหาคม ค.ศ. 1957 จนกระทั่งวันที่ 15 สิงหาคม ค.ศ. 1957 พระสังฆราชโชแรง สร้างวัดเซนต์หลุยส์ สาทร เสร็จเรียบร้อย ท่านจึงได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดเซนต์หลุยส์ สาทร เป็นองค์แรก ท่านได้เป็นเจ้าอาวาสองค์แรกของวัดเซนต์หลุยส์ สาทร เนื่องจากท่านเคยอยู่ประจำประเทศจีนมาก่อน ท่านจึงสามารถดูแลคริสตชนจีนบริเวณวัดเซนต์หลุยส์ และชาวต่างประเทศเข้ามาติดต่อได้เป็นอย่างดี ท่านได้สร้างบ้านพักพระสงฆ์ในปีเดียวกัน และสร้างโรงเรียนเซนต์หลุยส์ศึกษาในปีต่อมา เมื่อจำนวนนักเรียนเพิ่มขึ้น ท่านก็ได้สร้างโรงเรียนวิริยาลัยที่เซนต์หลุยส์ (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็นโรงเรียนเซนต์ไมเกิ้ิล) และย้ายนักเรียนชายไปอยู่โรงเรียนหลังใหม่ ปี ค.ศ. 1964 ท่านได้ตั้งคณะพลมารี คณะขับร้อง เด็กช่วยมิสซา สมาคมนักบุญวินเซนต์เดอปอล และคณะสวดผู้ตาย ท่านได้ปกครองวัดเซนต์หลุยส์ ถึงวันที่ 15 เมษายน ค.ศ. 1967
ในระหว่างที่ท่านดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดเซนต์หลุยส์ ท่านก็ได้รับตำแหน่งเจ้าแขวงคณะแห่งกรุงปารีสร ะหว่างปี ค.ศ.1959 – 1962 ในปี ค.ศ. 1967 สมเด็จพระสันตะปาปาเปาโล ที่ 6 ได้ทรงพระกรุณาโปรดให้สมณกระทรวงเผยแพร่ความเชื่อ ประกาศพระราชโองการ เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1967 สถาปนาแต่งตั้งพระสังฆราชใหม่ ขึ้นปกครองสังฆมณฑลใหม่ ที่แบ่งแยกออกจากสังฆมณฑลกรุงเทพฯ สังฆมณฑลใหม่นี้ มีนามว่า สังฆมณฑลนครสวรรค์ และได้พระสังฆราชใหม่คือ คุณพ่อมิแชล ลังเยร์ มิสซังต่างประเทศแห่งกรุงปารีส ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดเซนต์หลุยส์
คติพจน์
ด้วยความซื่อสัตย์และอ่อนโยน
IN FIDE ET LENITATE
งานอภิเษกพระสังฆราชมิแชล ลังเยร์ ที่โบสถ์อัสสัมชัญกรุงเทพฯ โดยพระอัครสังฆราชยวง นิตโย เป็นผู้อภิเษก พระสังฆราชเกลาดีอุส บาเย และพระสังฆราชวังงาแวร์ เป็นผู้ร่วมอภิเษก วันที่ 13 เมษายน ค.ศ. 1967 เริ่มพิธีเวลา 16.30 น. ด้วยขบวนพระสงฆ์ คณะพระสังฆราช แห่พระสังฆราชใหม่เข้าวัด แล้วคุณพ่อดาเนียล อุปสังฆราช อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯอ่านสมณสารตราตั้งเป็นภาษาลาติน คุณพ่อสังวาลย์ เลขานุการพระอัครสังฆราชยวง นิตโย ประธานในพิธี ปกมือเหนือศีรษะผู้รับอภิเษก เป็นการมอบอำนาจพระสังฆราช ซึ่งได้รับสืบต่อๆ มาจากอัครสาวก ต่อไปเป็นการเจิมศีรษะ, มือ เสกและมอบไม้เท้า,แหวน

พระสังฆราชมิแชล ลังเยร์ ได้ปกครองดูแลสังฆมณฑลนครสวรรค์เป็นเวลา 9 ปี จึงได้ขอลาเกษียณในปี ค.ศ.1976 เนื่องจากมีปัญหาด้านสุขภาพ ประกอบกับสภาสังคายนาวาติกันที่ 2 มีเจตนาที่มุ่งส่งเสริมประมุขเขตมิสซังให้เป็นคนพื้นเมือง สภาพระสังฆราชคาทอลิกแห่งประเทศไทยจึงได้สนองเจตนารมณ์โดยดำเนินการทูลเสนอแด่องค์สมเด็จพระสันตะปาปาเปาโลที่ 6 ให้ทรงแต่งตั้ง คุณพ่อบรรจง อารีพรรค ขณะนั้นดำรงตำแหน่งอธิการสามเณราลัยแสงธรรม สามพราน (Lux Mundi) เป็นประมุขสังฆมณฑลนครสวรรค์สืบภารกิจต่อไป พระสังฆราชมิแชล ลังเยร์ ถึงแก่มรณภาพ วันที่ 27 มีนาคม ค.ศ. 1989 ที่วัดแม่พระเมืองลูร์ด (วัดสระบุรี) รวมอายุได้ 69 ปี เป็นมิชชันนารีประเทศไทย 38 ปี พิธีปลงศพวันที่ 30 มีนาคม ค.ศ. 1989 เวลา 10.30 น. ที่อาสนวิหารนครสวรรค์ โดยมี พระสังฆราช บรรจง อารีพรรค เป็นประธานในพิธีปลงศพ ท่ามกลางพระสงฆ์ นักบวชชาย-หญิง และสัตบุรุษที่มาร่วมพิธีอย่างคับคั่ง
