1
เราผ่านวัยเด็กด้วยมากันทั้งนั้น
หลายคนคงเป็นเยาวชน …. องค์กรคาทอลิกต้น ๆ ที่เราเข้าไปสังกัด สมัยก่อนมีทั้งพลศีล กองหน้าร่าเริง ฯลฯ สมัยนี้ ถ้าเป็นเด็กเล็ก ๆ ก็อาจจะเข้าไปอยู่ในกลุ่มยุวธรรมทูต เมื่อโตขึ้นมาหน่อย ก็สังกัดเข้ากลุ่มเยาวชน เมื่อโตขึ้นสักหน่อย บางคนก็เลือกเข้าสังกัดกลุ่ม พลมารีย์, วินเซน เดอ ปอล , แม่บ้าน , ผู้สูงอายุ ฯลฯ … องค์กรคาทอลิกของวัด ไม่เพียงแต่ทำหน้าที่ประคองช่วงวัยแห่งชีวิต แต่ยังอยู่คู่กับวัด และชุมชน เพื่อช่วยงานอภิบาลของพระสงฆ์ผู้อภิบาล
2
ผมยกสมณลิขิตเตือนใจ “พระคริสตเจ้าทรงพระชนม์” (Christus Vivit) สมณลิขิตที่สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส ได้มอบกับเรานั้น เน้นหนักไปที่กลุ่มเยาวชน … พระคริสตเจ้าทรงพระชนม์อยู่เสมอ … วัยหนุ่มสาวจึงสะท้อนภาพการประทับอยู่ของพระเยซูเจ้าท่ามกลางพวกเรา
“เว็บและเครือข่ายออนไลน์ ได้สร้างวิถีใหม่ในการสื่อสาร และสร้างสายใยขึ้น สิ่งเหล่านี้เป็น “ลานพื้นที่สาธารณะที่เยาวชนได้ใช้เวลาส่วนใหญ่ และพบปะกันได้อย่างง่ายดาย …. พวกเขาได้ให้โอกาสสำหรับการสนทนา การพบปะ และการแลกเปลี่ยนกันระหว่างบุคคล รวมถึงการเข้าถึงข้อมูล และความรู้ นอกจากนี้โลกดิจิทัล เป็นอีกโลกหนึ่งในการมีส่วนร่วมทางสังคม การเมือง และการเป็นพลเมืองที่มีความกระตือรือร้น … ไม่น้อยเลยทีเดียว ที่มีเรื่องของการริเริ่ม และกิจกรรมในงานอภิบาลทางศาสนาด้วย” (87)
ผมเห็นลูกหลานของเรามีเล่นฟุตบอลที่สนามคล้าย ๆ กับสนามบาส ที่มีแป้นบาสเกตบอล เก่า ๆ …. การรวมกลุ่มของพวกเขา เป็นภาพงดงาม ที่เขาออกจากสื่อออนไลน์ในมือที่ถืออยู่ แล้วได้เห็น พบปะ พูดคุย กับเพื่อน … จะสัพเพเหระ และจบที่การเล่นกีฬา แต่ก็เป็นภาพที่ดีกว่าอยู่คนเดียว คิดคนเดียว ทำอะไรคนเดียว …
เราได้มอบ “พื้นที่” อะไรให้เขา … พื้นที่เล็ก ๆ ในชุมชน ที่เขาจะสามารถได้พบปะพูดคุย และเล่นด้วยกัน … พื้นที่ในทางศาสนา ที่ไม่เคยปิดกั้น เปิดกว้างสำหรับพวกเขาเสมอ ให้เขาได้มีส่วนร่วมในวัด ในพิธีกรรม ในชุมชน … เราต้องไม่ลืมว่า “เสียง” ของเขาในวันนี้ เป็นเสียงปัจจุบัน และเสียงแห่งอนาคตสำหรับชุมชนของเรา
เราได้ให้ “พื้นที่” ในใจเราสำหรับพวกเขาหรือยัง
เปิดพื้นที่ในใจของเรา ต้อนรับพวกเขาด้วยใจกว้าง … เพราะเขาคือปัจจุบัน และอนาคตของเรา
พระคริสตเจ้าทรงพระชนม์อยู่เสมอ …
3
เด็กบ้านญวน … เราถูกเรียกแบบนี้ ในหลายชุมชนคาทอลิกในประเทศไทย โดยเฉพาะชุมชนที่มีเชื้อสายเวียดนาม … วัดของเรา ชุมชนของเราก็เช่นกัน … ผู้คนเรียกพวกเราว่า “เด็กบ้านณวน” … ผมค้นประวัติของวัดเห็นเรื่องราวของโรงเรียนคาทอลิกบนเกาะญวน ในนามว่า “โรงเรียนวัดนักบุญอันนา เกาะญวน” ผมเชื่อว่า “คนปากน้ำโพ” เรียกพวกเราว่าบ้านญวน และเด็ก ๆ สมัยนั้นก็เป็นเด็กบ้านญวน … เด็กบ้านญวน ได้รับการอบรมเลี้ยงดูด้วยจิตตารมณ์ความรัก จากคุณพ่อ ซิสเตอร์ ถูกปลูกฝังความเชื่อแบบคริสตชน จากบรรพบุรุษ การสวดภาวนา ไปวัด ช่วยเหลือแบ่งปัน … ภาพเหล่านี้ เป็นพื้นที่ที่ผู้ใหญ่ปลูกฝังเข้าไปในหัวใจของเรา …
4
ภาพเยาวชนทยอยกันมาวัด ช่วยงานของวัด ช่วยมิสซา … นี่เป็นพื้นที่สำคัญสำหรับพวกเขา … เพราะในอนาคตวัดนี้ก็เป็นของเขา .. หน้าที่ที่เขาต้องรับผิดชอบวัดของเขาเอง