EP 1 คุยกับพระคุณเจ้าพิบูลย์

3 นาที

0

สวรรค์วิถี 28 คมลัมน์ใหม่ใน website สังฆมณฑลนครสวรรค์ สื่อสารด้วยเรื่องราวของผู้คนที่ผ่านไป ผ่านมา ในถนนสวรรค์วิถี 28 … เมื่อผ่านยอดโดมอาสนวิหารนักบุญอันนา …. ผ่านนักบุญอันนาองค์ใหญ่ ทะลุจนผ่านเข้าไปในหมู่บ้านอันเป็นที่ตั้งของซอยเทวาวิถี …. และนี่เป็นทั้งสวรรค์วิถี (วิถีแห่งชาวสวรรค์) และเทวาวิถี (วิถีแห่งเทพเทวา)

สวรรค์วิถี 28 คือเรื่องราวของพวกเรา ที่สัมผัส เคยมา เคยอยู่ และยังอยู่ ในสถานที่แห่งนี้ อาสนวิหารนักบุญอันนา นครสวรรค์ …

EP 1 คุยกับพระคุณเจ้าพิบูลย์ … พบบทสัมภาษณ์ 10 ปี แห่งการเป็นนายชุมพา ความห่วงใยในยุคโควิดนี้ สิ่งที่อยากฝากกับเยาวชน และมุมมองของสังฆมณฑลในยุคต่อ ๆ ไป

สวรรค์วิถี 28 เลือกสัมภาษณ์พระคุณเจ้าพิบูลย์ เพราะโดยตำแหน่งอาสนวิหารคือวัดของท่าน วัดที่มีเก้าอี้ประจำตำแหน่ง … หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ท่านจะเป็นเบอร์ 1 แห่งสวรรค์วิถี 28 นี้เอง

1

สาย ๆ ของวันธรรมดา วันนั้นคือ วันที่ 3 พฤษภาคม 2021 … ผมนัดพระคุณเจ้ายอแซฟ พิบูลย์ วิสิฐนนทชัย เพื่อให้ท่านพูดกับพี่น้องประชาชน ผ่านสื่อสารมวลชนเล็ก ๆ คือ website ของสังฆมณฑลนครสวรรค์ พระคุณเจ้าตอบรับ เรานัดเวลากันที่ 09.00 น. และนี่คือคำต่อคำจากความห่วงใยของพระคุณเจ้า

2

สวรรค์วิถี 28 : ปีเยาวชนของพระศาสนจักรคาทอลิกไทย เยาวชนของสังฆมณฑลควรดำเนินชีวิตอย่างไรครับ ?

พระคุณเจ้า พิบูลย์ : เรื่องปีเยาวชนนี้ สืบเนื่องจากสภาพระสังฆราชคาทอลิกแห่งประเทศไทย      ได้ประกาศให้ปีนี้เป็นปีเยาวชน อันเนื่องมาจากสมณลิขิต Christus Vivit พระคริสตเจ้ายังมีชีวิตอยู่ ทีนี้เราจะรู้ได้อย่างไรว่าพระเยซูเจ้ายังมีชีวิต … ในตัวมนุษย์มีสิ่งที่เราไม่สามารถคอนโทรนได้ อยู่เหนืออำนาจเรา ประการที่หนึ่งคือ ชีวิตและความตาย ประการที่สอง เรื่องสติปัญญา ความกล้าหาญ คือพระพรทั้งเจ็ดประการ มาโดยทางพระจิตเจ้าดลใจให้เราสำหรับพันธกิจ … พันธกิจ ในยุคนี้เป็นยุคที่ใช้อำนาจแล้วไม่ได้ผล เป็นยุคที่ต้องมองดูพรสวรรค์ของแต่ละบุคคลที่พระประทานให้ ถ้าเราเริ่มทำงานจากพรสวรรค์ของแต่ละคน เราจะประสบความสำเร็จ … ปีเยาวชนนี้ ประการที่ 1 น่าจะอ่านสมณลิขิต Christus Vivit และทวีความเชื่อ พระเยซูเจ้าตรัสว่า “ถ้าไม่เชื่อในตัวเรา อย่างน้อยดูที่ผลงานที่กระทำ” นั่นคือชีวิตและความตายที่เราไม่สามารถคอนโทรนได้ และพระพรทั้งเจ็ดประการ ถ้าเราทำถูกภารกิจ ยิ่งทำยิ่งสนุก แม้จะประสบความยากลำบากเพียงใดก็ตาม เยาวชนจะสร้างชีวิตอย่างไร นั่นคือ “ค้นให้พบถึงพระพรของพระเจ้าที่ประทานให้ จะเป็นงานอะไรก็แล้ว เมื่อเราพบ และทำเต็มที่เราจะมีความสุข และนั่นคือสวรรค์จากไม้กางเขนที่พระประทานให้กับเรา”

3

สวรรค์วิถี 28 : พระคุณเจ้ามองสถานการณ์โควิด 19 อย่างไร อยากให้กำลังใจอะไรกับบรรดาคริสตชนครับ ?

พระคุณเจ้าพิบูลย์ : ในยุคนี้มองได้สองอย่าง คือวิกฤติสร้างโอกาส ในวิกฤติทำให้เราปรับตัวใหม่ แล้วก็หาวิธีการทำงานใหม่ ๆ ความเป็นอยู่ใหม่ ๆ คือคนที่ฉลาดเปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาส ทีนี้คนที่กวนประสาทนี่ จะชอบด่า คนโน้นคนนี่ แต่ตัวเองไม่ได้ทำอะไร พวกนี้อย่าไปฟังเขา แต่จะฟังก็ต้องอดทนที่จะฟัง เพราะเขาไม่สร้างสรรค์ ไม่ทำให้เกิดอะไรใหม่ขึ้นมา …. สิ่งที่พ่อเห็นที่เกิดขึ้นในสังฆมณฑล ก็อยากจะบอกว่า เริ่มเรียนคำสอนแบบออนไลน์ หรือจัดการในรูปแบบใหม่ๆ ที่เป็นแบบออนไลน์ ไม่ว่าจะเรื่องการเรียน การสื่อสารทางเทคโนโลยี่มากขึ้น ในยุคนี้ต้องเตรียมคน ยกตัวอย่าง เรื่องโรงเรียน ย้อนยุคในสมัยพระคาร์ดินัล มีชัย เมื่อเขายังเป็นเณรที่ศรีราชา ช่วงนั้นเขาเป็นผู้จัดการโรงเรียนคนแรก ที่จะทำให้เกิดโรงเรียนในระดับมัธยมปลาย และเณรทุกคนต้องอยู่ 4 ปี ต้องไปเรียนวิชาครู เกิดเป็นผลพวง พระสงฆ์กับงานด้านโรงเรียน (การศึกษา) เป็นของคู่กัน ทีแรกก็มีบางคนเห็นว่าโรงเรียนไม่ดี แต่โรงเรียนเป็นเรื่องที่ดี เพราะเป็นการแพร่ธรรมในระดับใหญ่ มีเด็กนักเรียน ผู้ปกครอง คนงาน พนักงานขับรถ เกี่ยวข้อง เป็นการแพร่ธรรมระดับใหญ่ สมัยพระเยซูเจ้าการแพร่ธรรมในระดับนับพันคนมีไม่กี่ครั้ง แต่ถ้าเราเปิดโรงเรียน ถ้าเราทำโรงเรียนดี ๆ เราทำได้มากกว่าพันคน … นี่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นนสมัยท่านมีชัย …  ในยุคนี้เราต้องเตรียมคนสำหรับ IT การสื่อสารกับคนอย่างไร้พรมแดน การทำงานไร้พรมแดน เราก็ต้องเตรียมคนจริง ๆ … แต่ก่อนอาชีพเป็นเกษตร ต่อมาเป็นอุตสาหกรรม แต่ก่อนไม่ซับซ้อนมาก เดี๋ยวนี้ซังซ้อนมากขึ้น ชีวิตของพระสงฆ์เองก็ซับซ้อนขึ้น คนที่ทำหน้าที่อบรม ต้องเรียนรู้ว่าคนนี้มีพรสวรรค์อะไร สนับสนุนพรสวรรค์ อย่าไปกำหนดพรสวรรค์ตามประสามนุษย์ แต่เป็นตัวเขากับพระ… ภาษาอังกฤษเขาเรียกว่า Discernment คุยกับพระเจ้าว่าพระองค์ประสงค์อะไร … ในวัยหนุ่มคือเขาต้องเลือก มีหลายอย่างให้เลือก เขาจะเลือกบางอย่าง แล้วเราก็ต้องสนับสนุนให้เขาทำอย่างถาวร … ถ้าพูดถึงว่า “โควิดสร้างอะไร” ประการที่หนึ่ง หยุดด่าคน สองทำอะไรที่มันสร้างสรรค์ แล้วผู้ที่ทำหน้าที่อบรม เรียนรู้ดี ๆ ว่า พรสวรรค์ของแต่ละคนเป็นอย่างไร

4

สวรรค์วิถี 28 : 10 ปีในการปกครองสังฆมณฑลนครสวรรค์เป็นอย่างไรบ้างครับ ?

พระคุณเจ้าพิบูลย์ : ช่วงนี้พ่อกำลังไตร่ตรอง 10 ปีที่ผ่านมา … ก็เริ่มต้นด้วยหนี้สินมากมายเพราะว่ามิสซังของเรายากจน แต่ไปใช้ระบบของมิสซังที่ร่ำรวย ทุกอย่างรวมศูนย์ จะเป็นการเงิน การก่อสร้าง ต้องได้มาตรฐาน ทีนี้มิสซังของเราเป็นแบบมิชชันนารี จะไปเป็นแบบมิสซังที่เจริญแล้ว ที่จะมี Standard มีระบบ ก็ไม่ถูกต้อง และเห็นว่าไม่ควร เช่น ต้องมีระบบการประกาศพระวรสาร ระบบการศึกษา ก็เห็นว่าถ้าเป็นดินแดนมิชชันนารีต้องให้ความสำคัญกับพระสงฆ์ ให้อิสรภาพ อย่าไปคุมเขา ให้เขาทำตามพรสวรรค์ของเขา … พระสงฆ์ขยัน งานและภารกิจของแต่ละไม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นการจะไปออกรูปแบบที่เป็นกฎ มันทำไม่ได้ ในสังฆมณฑลนี้ เมื่อพระสงฆ์ที่ได้รับพรจากพระเจ้า แต่ละคนทำหน้าที่ของตน สังฆราชก็มีแต่ขอบคุณพระเจ้า และชื่นชม ในผลงานของแต่ละคนที่ไม่เหมือนกัน ในโรงเรียนก็อีกแบบหนึ่ง โรงเรียนยิ่งยาก เพราะซับซ้อน ก็พยุงกันไป โรงเรียนก็ลดนิดหน่อย ไม่มากแต่เขาก็รู้วิธีที่จะแก้ไขสถานการณ์ …. หลักการประการแรกคือ เคารพพรสวรรค์ของแต่ละคน อย่าไปสั่งการ อย่าไปยุ่งกับเขาให้มากมายนัก สอง ทุกคนต้องพึ่งตนเอง สังฆมณฑลมีหน้าที่เก็บรายได้ และใช้จ่ายอย่างประหยัด เวลานี้เรามีกองทุนกลางแข็งแรง … “….อยู่ในสังฆมณฑลนี้พ่ออยากจะบอกว่า “สบายใจ” แล้วก็ชื่นชมพระสงฆ์ที่ทำงานหนัก และพ่อมีความสุข คิดว่าทุกคนมีความสุข ก็ต้องขอบคุณพระเจ้าที่ให้ปีต่าง ๆ ที่ผ่านมา มีเรื่องราวดี ๆ มากมาย โดยการทุ่มเท และเสียสละ”

5

สรรค์วิถี 28 : พระคุณเจ้ามองอนาคตของสังฆมณฑลนครสวรรค์อย่างไรครับ ?

พระคุณเจ้าพิบูลย์ : ก็คือว่า ประการที่ 1 กระแสเรียก พ่ออยากจะตำหนินิดหน่อย เออ.. ไม่ใช่ตำหนิหรอก แต่จะให้กำลังใจ ชี้แจง ชักจูง พระสงฆ์ที่ดูแลบ้านเณร ต้องตั้งใจหากระแสเรียกมากกว่านี้ เขาเรียกว่า Proactive ต้องไปหา กระแสเรียก ไม่ใช่รอให้กระแสเรียกมา แล้วค่อยอบรมกระแสเรียก สิ่งนี้สำคัญ เพราะว่าอนาคตจะยิ่งใหญ่ อยู่ที่จำนวน … ยกตัวอย่าง หลังจากสร้างบ้านเณรมา แล้วผ่านจำนวนปีมาหลายปี เวลานี้เราก็เห็นพระสงฆ์หนุ่ม มาเปลี่ยนแปลงบรรยากาศสังฆมณฑล ให้มีชีวิตชีวา มีอนาคต มีความหวัง อยากจะบอกว่า กระแสเรียก สำคัญ กระแสเรียกอีกประการหนึ่งที่สำคัญที่เขาเรียกว่า “ซิสเตอร์สังฆมณฑล” อันนี้พ่อก็พยายามทำ แต่ก็ไม่สำเร็จ แต่ว่าคณะอื่น ๆ ก็ดึงเด็ก ๆ ของเราไปเข้าคณะนักบวช … เรื่องสำคัญที่สุดคือเรื่องกระแสเรียก … เห็นว่าบ้านเณรไม่ทันใจ พ่อก็เลยไปที่ศูนย์เด็กที่มีอยู่มากในสังฆมณฑล ไปกระตุ้น ไปที่ไหนก็พยายาม ชี้แจง ชักชวน ให้เข้าบ้านเณร ก็ได้ผลบ้าง ไม่ได้ผลบ้าง อยากจะบอกว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือสร้างคนรุ่นใหม่ สำหรับอนาคตของสังฆมณฑล … อนาคตอีกประการหนึ่ง บรรดาพระสงฆ์รุ่นใหม่ เนื่องจากมีความเป็นตัวของตัวเองสูง พยายามทำสิ่งที่เป็นพรสวรรค์ ถ้าหากว่าให้เขามีโอกาสเล่าสู่กันฟัง เพราะคนยุคนี้ ขยัน และแข่งขัน … ให้แต่ละคนทำตามพรสวรรค์ของแต่ละคนอย่างเป็นอิสระ แล้วงานจะเจริญก้าวหน้า ประการที่สาม ในเรื่องไอที เหมือนกับสมัยที่ท่านมีชัย เริ่มเรื่องการศึกษากับพวกเณร แล้วก็แผ่ขยายผลมาถึงปัจจุบันนี้ ถ้าเราเริ่มเรื่องไอที อย่างจริงจัง เณรทุกคนต้องเป็นคอมพิวเตอร์ ทำเว๊บไซด์ได้ ฯลฯ สอนเขาให้ได้ เกี่ยวกับเรื่องนี้ การสอนที่โรงเรียนใช้ออนไลน์มากขึ้น ให้เขาแสวงหาจากกูเกิ้ล มีคำตอบหมด ตั้งแต่ศาสนาไปถึงเรื่องชั่วที่สุด เราก็ต้องให้การบ้าน ปล่อยให้เขาทำอย่างเดียว วัดผลไม่ได้ ต้องทดสอบ ไอที ต้องทันโลก ยุคใหม่เป็นยุคนี้

6

สวรรค์วิถี 28 : มีอะไรเพิ่มเติมไหมครับพระคุณเจ้า

พระคุณเจ้าพิบูลย์ : ไม่มีครับ สวัสดี  

Related Post

เรื่องล่าสุด